เกาหลีใต้ประเทศที่กำลังเติบโตมากๆ แต่กลับกับในสายตาวัยรุ่น75%ของเกาหลีใต้นั้นมองว่าประเทศตัวเองเหมือนนรก..ทำไมพวกเค้าถึงมีความคิดเช่นนั้นกัน

 

เกาหลีใต้ได้เป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยีและความบันเทิงของคนทั่วโลกไปแล้ว เช่น บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง SAMSUNG ,LG ,HYUNDAI รวมถึงวงดนตรีอย่าง BTS Blackpink หรือภาพยนต์รางวัลออสก้าอย่าง Parasite ความสำเร็จนี้ถือเป็นอีกหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้ประชากรชาวเกาหลีใต้นั้นโดยเฉลี่ยร่ำรวยมากขึ้น แต่คนเกาหลีใต้ส่วนหนึ่งกลับบอกว่าถ้าเค้าเลือกได้เค้าขอไปสร้างตัวที่อื่นดีกว่า 

 

ทำไมคนเกาหลีใต้กลุ่มนี้ถึงมีมุมมองแบบนั้น?? 

เกาหลีใต้ถือเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จระดับโลกหลายอย่างทั้ง ประชากรมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นสูงมากที่สุดของโลก ประเทศที่มีการจดสิทธิบัตรเป็นอันดับหนึ่งของโลก ประเทศผู้ส่งออกเซมิคอนดักเตอร์อันดับ 2 ของโลก เป็นเทศผู้นำด้านนวัตกรรมอันดับ 2 ของโลก ความสำเร็จที่ผ่านมานี้ก็ทำให้ประเทศเกาหลีใต้กระโดดเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 10 ของโลกซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

แต่ทั้งนี้ประเทศเกาหลีใต้ก็ไม่ได้มีด้านที่สดใสเท่านั้นเพราะจริงๆแล้วมีอีกหลายด้านที่คนไม่ค่อยพูดถึงกัน เช่น อัตราการเกิดของประชากรน้อยที่สุดในโลก ในขณะที่อัตราการฆ่าตัวตายมากเป็นอันดับ 4 ของโลก รวมถึงสัดส่วน คนที่มีรายได้น้อยมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว 

คนรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้กว่า 75% จึงมองว่าประเทศของตัวเองไม่ต่างจากนรกเลย.. 

 

อะไรที่ทำให้คนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่มองบ้านเกิดตัวเองเป็นแบบนั้น??

เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีการศึกษาที่ดีที่สุดอันดับที่ 5 ของโลก และก็เป็นประเทศที่มีการศึกษาต่อมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกด้วย ซึ่งก็ทำให้การแข่งขันทางกันศึกษาสูงมากๆเช่นกัน ทำให้การเรียนในห้องเรียนไม่เพียงต้องเรียนกวดวิชาต่อจนถึงเที่ยงคืน ตี1 โดยเกาหลีใต้เค้ามีความเชื่อว่าการศึกษาจะสามารถเป็นโชคชะตาชีวิตของเค้าได้ เพราะอาจจะมีโอกาสได้การงานที่ดีและจะทำให้เค้ามีรายได้ที่สูงตามมา 

 

แต่ตลาดแรงงานในปัจจุบันของเกาหลีใต้กลับมีจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับมีน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนเด็กที่จบใหม่ การหางานทำในเกาหลีใต้จึงเป็นเรื่องที่ยาก แม้จะจบจากมหาวิทยาลัยที่ดี มีเกรดเฉลี่ยที่สูง แต่การที่พุ่งเป้าที่จะทำงานในตำแหน่งที่ดีในองค์กรชั้นนำนั้น ก็ถือว่ามีการแข่งขันที่สูงมาก ในแต่ละตำแหน่งก็เปิดรับสมัครน้อย เพราะบริษัทต่างก็มีความคิดว่าเค้าสามารถเติบโตได้อยู่โดยที่ไม่ต้องเพิ่มจำนวนพนักงาน...

นี่ก็เป็นเหตุผล 1 ใน 4 ของคนเกาหลีใต้ที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี ที่ไม่มีงานทำ

โดยคนที่มีคุณภาพหลายคนที่มีลู่ทาง เค้าก็จะออกไปทำงานต่างประเทศ และประเทศที่เค้าสนใจก็มี ประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา 

 

รู้หรือไม่ว่า??

จำนวนคนที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศของเกาหลีใต้มีเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าภายในระยะเวลา 5 ปี โดยให้เหตุผลว่าต่างประเทศมีตำแหน่งงานที่ดีกว่า และความกดดันในการทำงานก็น้อยกว่าเช่นกัน 

หลายคนคิดว่าแล้วทำไมไม่เป็นเจ้าของกิจการเองเลยล่ะ... 

คำตอบที่ได้คือกิจการในเกาหลีใต้ก็ยังคงเป็นกิจการขนาดเล็ก ขนาดกลางและ Start up อยู่ ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็ส่งเสริมกิจการขนาดเล็ก ขนาดกลาง จนถึงขั้นจัดตั้งกระทรวง SME และ Start up ขึ้นมาเพื่อช่วยจัดการปัญหานี้โดยเฉพาะ แม้ว่าจะมีบาง Start up ที่ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทระดับประเทศได้ อย่างแอพลิเคชั่น Kakao Friends บริษัทเกม Nexon หรืออีคอมเมิร์ซอย่าง Coupang แต่ใน 10 ปีที่ผ่านมานี้ ก็ไม่มีบริษัทไหนเลยที่เติบโตเป็นบริษัทระดับโลกได้ นอกจากบริษัท SAMSUNG ในขณะที่จีนมีประเทศที่ขึ้นมาติดอับดับ TOP100 ของโลกได้มีมากถึง 11 บริษัท ญี่ปุ่นก็มีเพิ่มมากถึง 5 บริษัท

นอกจากนั้นเกาหลีใต้ที่ Self Made ก็มีน้อยมาก คนรวยมที่ติดอันดับส่วนมากก็เป็นทายาทตระกูลดังๆที่สืบทอดมรดกกิจการในเกาหลีใต้มาอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่ากลุ่ม แชโบ โดยมีสัดส่วนคนรวยที่มาจากการับมรดกเป็น 62% ของประเทศ ในขณะที่อเมริกามีสัดส่วนที่รับมรดกเพียงแค่ 25% และจีนก็มีสัดส่วนเพียง 2.5% ที่รับมรดก

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้คนเกาหลีใต้เรียกตัวเองว่าเป็น 

กลุ่ม N - Po Generation  "Generation who gave up on n number of things" เจเนอเรชั่นที่ยอมแพ้กับทุกอย่างในชีวิต

ทั้งในเรื่องของการแต่งงาน การมีลูก การซื้อบ้าน เพราะเค้ามองว่าเป้าหมายเหล่านี้มันใหญ่เกินตัวเค้าไปมาก บางคนถึงกับทิ้งแม้กระทั่งสังคมเพราะเค้ามองว่า ภาระหน้าที่ที่เค้าต้องดูแลตัวเองให้อยู่รอด รวมถึงการดูแลพ่อแม่ก็หนักหนามากพอแล้ว ประชากรในเกาหลีใต้เลือกที่จะใช้ชีวิตคนเดียว คิดเป็น 40% ของประชากรทั้งหมดของเกาหลีใต้ในปัจจุบัน

กระแสนี้เกิดมานานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดกระแส “ฮน-บับ” การกินข้าวคนเดียว หรือ “ฮล-ซุล” การนั่งดื่มคนเดียว ซึ่งสวนกระแสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของเกาหลีใต้ซึ่งจะกินข้าว ดื่มเหล้าเป็นกลุ่ม เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมานี้ เค้าเลยตั้งชื่อประเทศตัวเองว่า “Hell Joseon” หรือนรกโชซอน  “โชซอน” เป็นชื่อราชวงศ์สุดท้ายของเกาหลี

เค้ามองว่าการใช้ชีวิตในเกาหลีใต้ก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้ชีวิตในนรก จึงเชื่อว่าออกนอกประเทศเป็นทางออกที่ดีที่สุด