Incognito คืออะไร ใช้งานอย่างไร
สมาร์ทโฟนมีความสำคัญกับชีวิตมากไฉน ความเป็นส่วนตัวก็สำคัญยิ่งหาต่างไม่ ถ้าเกิดไม่ระวังตัวให้ดี ข้อมูลลับส่วนตัวของคุณอาจถูกล่วงรู้จากคนใกล้ตัวได้ ไม่ว่าจากแท็บเล็ต มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ ในขณะเดียวกัน ผู้พัฒนาแบรนด์มือถือต่าง ๆ ได้เสนอตัวช่วยที่จะป้องกันข้อมูลส่วนตัวได้ สิ่งนั้นก็คือโหมด Incognito นั่นเอง
ก่อนอื่น ทำไมไม่ล็อกหน้าจอมือถือล่ะ ไม่ว่าจะตั้งรหัส สแกนหน้า สแกนลายนิ้วมือ มีให้เลือกตั้งมากมาย แต่ถึงกระนั้น วิธีดังกล่าวเป็นเพียงป้อมประการแรกในการเข้าถึงข้อมูลการใช้งานของคุณ แน่ล่ะว่าคนในครอบครัว เพื่อนพ้อง หรือแฟนต้องรู้รหัสเหล่านั้นอยู่เป็นธรรมดาแม้จะปิดเป็นความลับก็ตาม ถ้าไม่เชื่อ แล้วคุณเป็นพ่อคนแม่คนล่ะก็ ลองถามลูกคุณดูสิ
เมื่อป้อมแรกไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ มาถึงประการที่สอง ที่จะซ่อนความลับน่าอายที่คุณท่องอินเตอร์เน็ตได้ หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่าโหมด Incognito ผ่านหูมาบ้าง หรือการท่องเว็บแบบส่วนตัว เชื่อว่าหลายคนปักใจเชื่อเจ้า Incognito นี้สุดใจว่าจะซ่อนความลับได้อยู่หมัด แต่ก็ควรทราบไว้ว่าไม่ใช่ข้อมูลทุกอย่าง ที่จะปกปิดได้หมดจด ทีนี้เรามาดูไปพร้อม ๆ กันถึงความสามารถของโหมดนี้
โหมด Incognito คืออะไร ?
โหมดนี้มีเพื่อซ่อนอัตลักษณ์ที่แท้จริงของบุคคลนั้น ในเครื่องแอนดรอยด์ Incognito จะช่วยซ่อนคุณขณะท่องเว็บไซต์ใน Google Chrome ซึ่งจะไม่แสดงประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ให้บุคคลอื่นเห็น เปรียบเสมือนลบร่องรอยของคุณออกจากการท่องเว็บนั่นเอง
วิธีเปิด-ปิดการใช้งานโหมด Incognito
ในเครื่องแอนดรอยด์สามารถทำได้ใน Google Chrome ไม่ว่าในมือถือหรือแท็บเล็ต อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows, Macs และ Chrome OS ก็ได้เช่นกัน
ในเครื่องแอนดรอยด์ เปิด Chrome จากนั้นกดปุ่มจุดสามจุดในแถบเมนู กดเลือกแถบ “หน้าต่างใหม่และไม่ระบุตัวตน” หรือ “Incognito Mode” Chrome จะทำการเปิดหน้าต่างส่วนตัวใหม่ขึ้นมา จะปรากฏตัวละครสวมหมวกและแว่นตาให้เห็น และแสดงข้อความ “คุณได้เข้าสู่โหมดไม่ระบุตัวตนแล้ว”
ตอนนี้คุณได้เข้าสู่โหมดส่วนตัวแล้ว และสามารถสลับไปมาระหว่างแถบปกติ โดยกดที่กล่องเครื่องมือบน Address Bar ซึ่งจะสามารถท่องเว็บแบบส่วนตัวได้เฉพาะบนโหมด Incognito เท่านั้น แม้จะเปิดทั้งสองแถบไว้ก็ตาม
การปิดการใช้งานนั้นง่ายมาก สามารถกดปิดที่ปุ่มกากบาทได้เลยเช่นเดียวกับโหมดปกติ ถ้าในแอนดรอยด์สามารถเปิดแถบแจ้งเตือน และกดปิดโหมด Incognito ได้พร้อมกันทุกแถบ
ท่องเว็บแบบส่วนตัวคืออะไรล่ะ ?
ในโหมด Incognito หรือโหมดไม่ระบุตัวตนเปรียบเหมือนยามรักษาความปลอดภัยของเครื่องมือถือ ถ้าคุณใช้โหมดนี้เพียงอุปกรณ์เดียว อุปกรณ์เครื่องอื่นที่ลงทะเบียนอีเมลไว้ จะยังคงมีประวัติการท่องเว็บอยู่
สมมติ ถ้ามีคนเอาโทรศัพท์คุณไปใช้ โหมดนี้จะป้องกันการค้นข้อมูลประวัติการท่องเว็บของคุณ ตัว Chrome นั้นจะไม่บันทึกประวัติการค้นหาและท่องเว็บไว้ รวมถึงไม่เชื่อมต่อบัญชีส่วนตัวของแถบหลักจำพวกคุกกี้ ข้อมูลเว็บไซต์ การอนุญาตเข้าถึงรหัสต่าง ๆ ขณะเดียวกันในโหมด Incognito จะลบข้อมูลที่กรอกไว้ทั้งหมดออกทันทีหลังจากปิดการใช้งาน
ถ้าคุณใช้งานโหมด Incognito คนที่เปิดโทรศัพท์คุณจะไม่รู้ข้อมูลธนาคาร รหัสสำคัญ หรือเข้าเว็บหนังผู้ใหญ่โปรดของคุณ ซึ่งอาจสร้างความกระอักกระอวนต่อตัวคุณเองและผู้ท่องเว็บอีกคนได้
ข้อมูลบางอย่างยังคงหลงเหลือร่องรอยไว้
ดังที่กล่าวมาข้างต้น โหมด Incognito ป้องกัน Chrome เก็บข้อมูลท่องเว็บไซต์จากโทรศัพท์ แต่ก็ไม่ป้องกันการเก็บข้อมูลกิจกรรมออนไลน์ถึงเว็บไซต์ที่คุณท่องได้
ตัวอย่างเช่น เจ้าของเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมจะเห็นว่าคุณเข้ามา เพราะมีการล็อกอินเข้าหรือกดเข้าชมสู่เว็บไซต์ เช่นเดียวกับโฆษณาเองก็ด้วย ถ้าเกิดว่าคุณอยู่ที่ทำงานหรือโรงเรียน เครือข่ายต้นทางจะทราบถึงประวัติการท่องเว็บ เช่นเดียวกับหน่วยงานที่ให้บริการเน็ตบ้านค่ายต่าง ๆ เองก็ด้วย โปรแกรมค้นหา (search engine) เองก็ทราบข้อมูลเช่นกัน และอาจแนะนำคุณถึงผลการค้นหาที่น่าจะเป็นไปได้เสียอีก
หน่วยงานเหล่านี้เขาเห็นคุณทำอะไรบ้างล่ะ มาดูกัน
ที่อยู่ IP หรือก็คือพิกัดตำแหน่งที่คุณท่องเว็บ กิจกรรมออนไลน์ตามเวลาจริงที่คุณเข้าเว็บไซต์หรือใช้บริการออนไลน์ต่าง ๆ และที่สำคัญอัตลักษณ์บุคคลที่คุณเข้าใช้งานกับเว็บไซต์นั้น ๆ ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ของทาง Google อย่าง Gmail
โหมด Incognito ไม่ช่วยให้คุณลบร่องรอยกิจกรรมบนอินเตอร์เน็ตที่ผิดกฎหมายได้อย่างการโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท หลอกลวง หรือการโจรกรรมข้อมูลได้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพิกัดการเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ต (IP Address) และเข้าถึงประวัติการเข้าชม หรือการค้นหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตได้
นอกเหนือจากนี้ แม้ Chrome จะไม่ได้เก็บข้อมูลการดาวน์โหลดเอกสารในโหมด Incognito อย่างไรก็ตาม เอกสารเหล่านั้นถูกบันทึกไปยังคอมพิวเตอร์ในไฟล์ “Download” ไฟล์เหล่านี้จะยังอยู่แม้จะปิดโหมดนี้ไปแล้ว ซึ่งหมายความว่า ทุกคนสามารถเข้าถึงไฟล์ได้บนคอมพิวเตอร์
รวมถึงบุ๊กมาร์กที่บันทึกไว้ในโหมดนี้จะถูกบันทึกไปด้วยและแสดงในแถบปกติ หรือก็คือเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่โปรดของคุณจะปรากฏอยู่ในบุ๊กมาร์ก อีกทั้งการตั้งค่าและการปรับแต่งการเข้าถึงระหว่างการใช้งานในโหมดนี้ ก็ถูกบันทึกไว้ด้วยเช่นกัน
ทำไมโหมด Incognito ถึงจำเป็นล่ะ ?
การใช้โหมดไม่ระบุตัวตนมีเหตุผลที่ดีอยู่หลายอย่าง แม้ว่าจะไม่สามารถปกป้องการท่องเว็บแบบส่วนตัวได้มั่นใจเต็มร้อย แต่อย่างน้อยก็ลบความอับอายจากการค้นหาสิ่งแปลก ๆ หรือเพื่อจรรโลงใจจากคนใกล้ตัวได้
ตัวอย่างเช่น การใช้โหมดไม่ระบุตัวตนในการท่องเว็บสำหรับบ้านที่แชร์อุปกรณ์เครื่องเดียวกันอย่างแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ เพราะบุตรหลานของคุณอาจนำข้อมูลการเงินไปใช้โดยไม่รู้ตัว หรือเปิดเจอเว็บหนังผู้ใหญ่ก็เป็นได้ ควรระวังตัวไว้ก่อนเพื่อไม่เห็นเกิดคำถามที่ยากที่จะอธิบายตามมา
อีกตัวอย่างหนึ่ง การใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะตามห้องสมุด ร้านถ่ายเอกสาร เป็นต้น การใช้โหมด Incognito จะช่วยลบข้อมูลบุคคลได้ทันทีที่ปิดการใช้งานโหมดนี้ ไม่จำเป็นต้องกลัวลืมว่าจะต้องล็อกเอ้าท์แต่อย่างใด ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการลดความเสี่ยงของข้อมูลรั่วไหล
สำหรับคนที่มีคู่ การจะหาของขวัญมาเซอร์ไพร์ หาที่เที่ยวฮันนีมูน หรือจัดปาร์ตี้วันเกิดที่ต้องหาไอเดียมาประดับงานเลี้ยงให้แฟนคุณ สามารถใช้โหมดไม่ระบุตัวตนนี้ก็ได้เช่นกัน เพื่อดำเนินงานได้อย่างแนบเนียนที่สุดนั่นเอง
มีทางเลือกอื่นในการเปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตนไหม ?
ทาง Google มีแอปพลิเคชันอย่าง Google Maps หรือ Play Store (ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นทดลอง) การทำงานมีความคล้ายคลึงกับโหมด Incognito ที่จะไม่บันทึกประวัติการค้นหาข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว
ใน Google Maps จะซ่อนข้อมูลการเดินทางและคำค้นหาของคุณ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดการรับข้อมูลของทาง Google ได้แต่อย่างใด
ใน YouTube ก็มีการพัฒนาโหมด Incognito ด้วยเช่นกัน การทำงานก็เหมือนกับโหมดไม่ระบุตัวตนของ Chrome ที่ซ่อนประวัติการเข้าชมและค้นหาผ่าน YouTube
Safari สำหรับผู้ใช้ IOS จำพวก iPhone, iPad, และ Mac เองก็มีโหมดส่วนตัวด้วยเช่นกัน สามารถใช้งานได้โดยกดแถบใน Safari และเลือก “Private”เพื่อเปิดแถบใหม่ ซึ่งจะไม่บันทึกเว็บที่คุณเข้าชม ประวัติการค้นหา และการกรอกข้อมูลอัตโนมัติหลังจากปิดแถบส่วนตัว
ทาง Windows 10 ในโปรแกรม Microsoft Edge มีโหมด InPrivate และ Firefox ก็สนับสนุนโหมดส่วนตัวเช่นเดียวกัน และแน่นอนการทำงานก็ไม่ต่างอะไรจาก Chrome เลย
พึงระลึกไว้เสมอว่า การใช้โหมดไม่ระบุตัวตนไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการท่องเว็บแบบส่วนตัว แต่ก็ช่วยให้ผู้ใช้งานท่องเว็บได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งเป็นแค่เครื่องมือเสริมเท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการท่องเว็บแบบส่วนตัวยิ่งขึ้นไปอีก สามารถใช้งาน VPN ได้ เป็นทั้งเครื่องมืออเนกประสงค์สำหรับการทำงานในสถานการณ์ต่าง ๆ
ดังนั้นถ้าคุณไม่มีความลับอะไรที่อาจก่อความอับอายแก่ตัวเอง โหมดนี้ก็เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งเท่านั้นที่จะช่วยกันลืมล็อกเอาท์หลังจากการใช้งานคอมพิวเตอร์สาธารณะ