8 วิธีเยียวยาใจคนอกหัก
ไม่มีสถานการณ์ไหนที่ทำให้คนจมดิ่งสู่ความสิ้นหวังได้แย่เท่ากับ ‘อกหัก’ อีกแล้ว ในละครซิทคอมและรอมคอม ก็นำเสนอวิธีการก้าวข้ามความช้ำใจนี้ โดยตัวละครจะนั่งดูหนังเศร้า ๆ ร้องไห้ใต้ผ้าห่มทั้งวันทั้งคืน ไม่นานก็ลืมคนเก่าไปอย่างไว เหมือนไม่เคยอกหัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความรู้สึกที่ถูกทิ้งไม่ได้หายไปง่าย ๆ ซึ่งอาจทำให้พฤติกรรมของคนเราเปลี่ยนไปในทางที่แย่ก็ได้ การไม่แยแสต่อความหวังดีของเพื่อน เทงาน และเลิกห่วงใยตนเอง ทั้ง ๆ ที่คนในโลกก็มีอยู่ให้จับจองเป็นเจ้าของได้ไม่ซ้ำหน้า แต่ทำไมยังทำใจให้ผ่านพ้นเรื่องเหล่านี้ไปไม่ได้สักทีล่ะ ?
ก็เพราะว่า ‘รักคือสารเสพติด’ — ก็อาจไม่จริงสักทีเดียว ดร.กาย วินซ์ นักจิตวิทยาและผู้เขียนเรื่อง ‘สูญเสียแค่ไหน ก็ไม่เสียศูนย์’ กล่าวว่า “จากการตรวจหาการทำงานของระบบสมองพบว่า ความรักเป็นรูปแบบหนึ่งของการเสพติด เมื่อเข้าสู่ช่วงหนึ่ง สารที่เราได้รับคือความรักจากความสัมพันธ์ที่มีให้กันมาตลอด ถูกตัดขาดออกไปจากชีวิต (เมื่อเลิกกัน) จะทำให้กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เหมือนขาดสิ่งเติมเต็มจิตใจ ‘สารเสพติด’ นั่นเอง” ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ชีวิตเคียงข้างใครสักคน ทำให้เกิดเส้นทางอนาคตที่สร้างร่วมกันมา ซึ่งยากที่จะลืมเลือนไปจากใจอันบอบช้ำ แต่ก็มีหลายทางที่จะช่วยเยียวยาจิตใจ และหาทางให้ความสุขเข้ามาเติมเต็มความเศร้าโศกแทน วันนี้ เรามีวิธีเยียวยาใจคนอกหักที่ปฎิบัติตามได้ (ง่าย ๆ) ให้มาลองดูกัน
- สร้างคุณค่าของตัวเองขึ้นมาใหม่
หากแฟนเป็นฝ่ายบอกเลิกคุณก่อน เป็นธรรมดาที่คุณจะเริ่มมองหาข้อบกพร่องของตัวเอง ที่ทำให้ความสัมพันธ์ต้องจบลง อาจเป็นด้านรูปลักษณ์ภายนอกหรืออุปนิสัย ที่คุณไม่สามารถเติมเต็มความพึงพอใจของแฟนคุณได้ นายกาย วินซ์กล่าวว่า “ให้เรามองคุณค่าของตัวเอง อะไรที่สานสัมพันธ์นั้นขึ้น แทนที่จะมองหาสิ่งที่เราขาด ลองเขียนรายการที่บ่งบอกถึงลักษณะนิสัย ความเป็นตัวของเรา ความสามารถ และสิ่งที่เราถนัดไว้ในกระดาษ” ถ้าเกิดว่าค้นหาสิ่งเหล่านี้ไม่เจอ ก็ลองถามคนใกล้ตัวที่สนิทสนมเพื่อนหรือครอบครัว เผื่อจะมีสิ่งที่เรามองข้ามไปได้ เรื่องเหล่านี้จะเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น
- ลองไปสถานที่ใหม่ ๆ สัก 3 แห่ง
แมรี่ โจ ราพินี นักจิตบำบัดและผู้แต่งหนังสือให้คำแนะนำเรื่องความรัก ให้คำปรึกษากับคนไข้ส่วนใหญ่ที่ประสบกับปัญหาอกหักว่า “ครั้งหนึ่งในสัปดาห์ ลองหาร้านกาแฟหรือร้านอาหารที่ไม่เคยไปดู และชวนเพื่อนไปด้วยอย่างน้อยหนึ่งคน” ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อตัดสายป่านสถานที่ที่เคยไปกับคนรักเก่า และก็เป็นโอกาสดีที่จะใช้เวลาร่วมกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ
- อย่ารีบคบคนใหม่
การกลับมาอยู่ในความสัมพันธ์กับแฟนคนใหม่ หลังจากเลิกกับแฟนเก่าไปได้ไม่นาน แม้จะเพียงชั่วคราวอาจช่วยให้คุณดูมีคุณค่าในสายตาใครสักคนอีกครั้ง แต่เมื่อผ่านไปสักพักคุณอาจรู้สึกผิดก็ได้ แมรี่ ราพินีกล่าวว่า “คนไข้หลายคนรู้สึกเสียใจหลังจากคบกับแฟนใหม่ไปได้ไม่นาน เพราะว่าความรู้สึกที่มีให้นั้นผิวเผินเพื่อให้ลืมคนเก่าเท่านั้น ทว่า อีกฝ่ายกลับจริงจังในความสัมพันธ์” เมื่อคุณตัดสินใจโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนอย่างการรีบหาแฟนใหม่ สื่อให้เห็นว่าคุณพยายามหาทางลบความเจ็บปวดออกไปจากใจ “สำหรับคนที่มีความรับผิดชอบและเข้าใจต่อความรู้สึก จะทนกับความเจ็บปวดและเผชิญหน้าผ่านพ้นความเจ็บปวดนั้นไปได้ในที่สุด”
- เผชิญหน้ากับความเป็นจริงในอดีต
เมื่อจิตใจล่องลอยหวนกลับไปนึกถึงเรื่องดี ๆ ในวันวานที่เคยมีให้กัน คุณมีแนวโน้มที่จะลืมเรื่องแย่ ๆ ในอดีตไป นายกาย วินซ์กล่าวว่า “ความคิดที่แล่นเข้ามาในหัวตอนแรกอาจเป็นฮันนีมูนแสนวิเศษ เรื่องหวาน ๆ ที่ทำตอนออกเดทครั้งแรก แต่เตือนตัวเองถึงเรื่องที่ทะเลาะมีปากเสียงกัน เรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นกับคนรักเก่า หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ อย่าหลวมตัวคิดถึงแต่เรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ให้นึกถึงความเป็นจริงกับเรื่องเลวร้ายในอดีตด้วย”
- บันทึกเรื่องแย่ ๆ ของคนรักเก่า
ถ้าไม่ให้นึกถึงเรื่องดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้น ก็นึกถึงเรื่องแย่ ๆ สิ นายกายแนะนำให้เขียนรายการว่าทำไมแฟนคนนั้นถึงไม่ดีพอสำหรับเรา คิดถึงเรื่องที่น่าหงุดหงิด รวมถึงทำไมเราต้องลดมาตราฐานของเราเทใจไปให้กับคน ๆ นั้นด้วย ลองจดโน๊ตไว้ในมือถือเมื่อคิดถึงเรื่องดี ๆ ขึ้นมา ก็จะได้เอามาอ่านแล้วลบภาพลักษณ์ดี ๆ เหล่านั้นออกไป
- ออกห่างจากโลกโซเชียล
แม้จะลบตัวตนของคนรักเก่าออกไปจากโลกโซเชียลจนหมดแล้ว ก็อาจไม่เพียงพอ ถ้าเป็นเช่นนี้ลองจำกัดการใช้โซเชียลดู จนกว่าคุณจะมั่นใจว่าไม่หวั่นไหวต่อสิ่งเร้า (การโพสต์หรือแท็กถึงคนรักเก่าจากเพื่อนในโซเชียล) จะเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า ถ้าเพื่อนเก็บเรื่องนี้ไว้และไม่แชร์ต่อให้เรา แม้จะเป็นเรื่องนินทาหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พยายามบอกให้เพื่อนฟังถึงปัญหาและไม่ทำอะไรที่ชวนให้นึกถึงคนรักเก่าอีก
- สลัดความคิดเรื่อง ‘ไม่ติดใจ’
ชีวิตจริงไม่เหมือนกับละคร ที่คุณอยากให้มีเหตุผลตัดขาดแฟนเก่าออกไปจากชีวิตได้อย่างการมีสัมพันธ์ชู้สาว หรือแอบคบกับเพื่อนรัก แต่เสียดายที่ว่าความเป็นจริง ทั้งสองคนก็แค่ค่อย ๆ ทิ้งระยะห่างออกจากกัน และจากนั้นก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า ‘ทำไม’ มีสิ่งหนึ่งที่ต้องเข้าใจก่อนว่า ระหว่างอยากกลับไปคืนสัมพันธ์กับแฟนเก่ากับไม่ติดใจกับเรื่องในอดีต มีเส้นบาง ๆ คั้นอยู่ระหว่าง นายกายกล่าวว่า “คุณอาจมโนว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่อาจกลับไปแก้ไขได้ในอดีต เพื่อให้กลับมาอยู่ด้วยกันได้อีกครั้ง” ทางออกที่ดีก็คือ ยอมรับว่าเราไม่ได้เกิดมาคู่กัน หากว่าแฟนเก่าบอกเหตุผลที่อยู่ด้วยกันต่อไปไม่ได้ ขอให้เข้าใจว่าเขาไม่ได้รักคุณมากพอ เป็นคำอธิบายที่ปิดเรื่องราวเก่า ๆ ได้อย่างดีที่สุดแล้ว “คุณอาจให้คำอธิบายกับตัวเองอีกว่า เราควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คนที่รักเรามากพอ และคนที่เห็นคุณค่าแท้จริงในตัวเรา”
- ทำสิ่งที่ทำแล้วอุ่นใจต่อไป
คุณอาจทนไม่ได้ที่คนจดจำคุณตอนอยู่กันเป็นคู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ทำด้วยกันมา คุณจะเลิกและตัดขาดกับสิ่งนั้นไปจากชีวิตทั้งหมด แมรี่ ราพินีกล่าวว่า “ฉันเห็นบางคนเลิกเข้าโบสถ์หรือเลิกทำจิตอาสา เพราะว่าเป็นสิ่งที่ทำด้วยกันกับแฟนเก่ามาก่อน แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่คุณควรทำก็คือ ลองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ดู และยึดมั่นสิ่งที่คุณเคยทำมาแบบเดิมด้วย เพราะเป็นการสร้างสมดุลให้กับชีวิต ”